webkruboy.files.wordpress.com€¦ · Web viewการกำหนดค่าคงที่...
12
ใใใใใใใใใใใใ 4 ใใใใใใใใ(Constants) ใใใใใใ(Expressions) ใใใ ใใใใใใใใใใ(Operators) 4.1 ใใใใใใใใใใใใใใใใใ (Constants) กกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกก define กกกกกกกกกกกกกก กกกก define("HELLO","กกกกกกกกกก"); กกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกก กกก - กกกกกกกกกกกกก $ (dolla sign) กกกกกกกกกกก - กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก define() - กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกก - กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกก กกกก กกกกกกกกก - กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก array ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ (Constants) <html> <head> <title>Constants</title> <meta http- equiv="Content-Type" content="text/html; charset=windows-874"></h ead> <body> <?php define("HELLO","กกกกกก กกก"); define("VAT", 5 ); $name = "กกกกก"; กกก
Transcript of webkruboy.files.wordpress.com€¦ · Web viewการกำหนดค่าคงที่...
ใบความรูท่ี้ 4ค่าคงท่ี(Constants) นิพจน์(Expressions) ตัวดำาเนิน
การ(Operators)
4.1 การกำาหนดค่าคงท่ี (Constants) การกำาหนดค่าคงท่ี คือการกำาหนดค่าคล้ายกับการกำาหนดค่าของ
ตัวแปร แต่จะแตกต่างกันตรงท่ีค่านัน้จะเป็นค่าคงที่ตลอดทัง้โปรแกรม จะแก้ไขไมไ่ด้ โดยจะใชค้ำาสัง่ define เขา้มาระบุชื่อ เชน่ define("HELLO","สวสัดีครบั"); ค่าคงที่แตกต่างจากตัวแปรทัว่ไป คือ
- ค่าคงที่ไมม่ ี$ (dolla sign) นำาหน้าชื่อ- ค่าคงที่จะถกูกำาหนดโดยใชฟ้งัก์ชนั define() - ค่าคงที่อาจถกูกำาหนดและเขา้ถึงได้ทกุที่โดยปราศจากขอบเขต- ค่าคงที่ไมส่ามารถทำาการ กำาหนดค่าใหม ่หรอื คืนค่าได้- ค่าคงที่นัน้จะไมม่กีารใช ้array
ตัวอยา่งการใชค่้าคงท่ี (Constants) <html> <head><title>Constants</title><meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=windows-874"></head> <body><?phpdefine("HELLO","สวสัดีค่ะ");define("VAT", 5 );$name = "สมชาย";echo HELLO . "คณุ$name" . "<br>";echo "ภาษีมูลค่าเพิม่ " . VAT.'%' . "<p>";$HELLO="Good morning";$VAT=10;echo HELLO . "$HELLO" . "<br>";
ใชค้่า
ใช้
echo "ภาษีมูลค่าเพิม่ " . $VAT.'%';?></body</html>
4.2 การใชตั้วดำาเนินการ (Operators) ตัวดำาเนินการ คือเครื่องหมายหรอืสญัลักษณ์ที่ใชด้ำาเนินการกับ
ตัวแปรหรอืค่าคงที่ค่าหน่ึง แล้วทำาใหเ้กิดผลลัพธข์ึ้นมาเป็นค่าใหม ่ตัวดำาเนินการในภาษา PHP ประกอบไปด้วย
1. Arithmetic Operators คือตัวดำาเนินการทางคณิตศาสตร ์ลักษณะการใชง้านคล้ายกับรูปแบบคณิตศาสตรทั์ว่ไป
Arithmetic Operators
ตัวอยา่ง
ผลลัพธ์
+ (บวก) $a + $b
$a=5 และ $b=5ผลรวมของ $a + $b =10
- (ลบ) $a - $b
$a=5 และ $b=4ผลต่างของ $a - $b =1
* (คณู) $a * $b
$a=5 และ $b=5ผลคณูของ $a * $b =25
/ (หาร) $a / $b
$a=10 และ $b=5ผลหารของ $a / $b =2
% (หารเอาเศษ)
$a % $b
$a=10 และ $b=5เศษ จากการหารของ $a % $b =0
ตัวอยา่งการใช้ Arithmetic Operators <html> <head><title>Arithmetic Operators</title>head> <body><?php$v1 = 10;$v2 = 5;$sum = $v1+$v2;$sum1 = $v1-$v2;$sum2 = $v1*$v2;$sum3 = $v1/$v2;$sum4= $v1%$v2;echo "$v1+$v2=".$sum.'<br>';echo "$v1-$v2=".$sum1.'<br>';echo "$v1*$v2=".$sum2.'<br>';echo "$v1/$v2=".$sum3.'<br>';echo "$v1%$v2=".$sum4;?></body></html>
2. Assignment Operators หรอื ตัวดำาเนินการกำาหนดค่า คือ operator ท่ีใชใ้นการกำาหนดค่า หรอืเปล่ียนแปลงค่าใหแ้ก่ตัวแปร
Assignment Operators
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์
= $a = $b
กำาหนดค่า $a
เท่ากับ $b
+=$a += $b
$a = $a + $b
-= $a -= $b
$a = $a - $b
*=$a *= $b
$a = $a * $b
/= $a /= $b $a = $a / $b
%= $a %= $b
$a = $a % $b
ตัวอยา่งการใช้ Assignment Operators
<html> <head><title>Assignment Operators </title>head> <body><?php$c = ($b = 4) + 5;// $c มคี่าเท่ากับ 9 และ $b มคี่าเท่ากับ 4echo '$c='.$c.',$b='. $b.'<br>'; $a = 3; echo '$a='.$a;$a += 5;echo ',$a += 5='.$a.'<br>';$b = "Hello ";echo '$b='.$b;$b .= "PHP"; echo ',$b .= "PHP"='.$b.'<Br>';?></body></html>
3. Comparison Operators คือตัวดำาเนินการเปรยีบเทียบเป็น operator ท่ีใชเ้ปรยีบเทียบระหวา่งค่า 2 ค่า
$a มคี่าเป็น 8 เนื่องจาก $a มคี่าเป็น 3 ก่อนจากนัน้
$b .= "PHP" มคี่า
Comparison Operators ตัวอยา่ง ผลลัพธ์
== $a == $b ผลท่ีได้เป็นจรงิ(TRUE) ถ้า $a เท่ากับ $b
===$a === $b
ผลท่ีได้เป็นจรงิ(TRUE) ถ้า $a มค่ีาเหมอืนและเท่ากัน $b
!= $a != $b ผลท่ีได้เป็นจรงิ(TRUE) ถ้า $a ไมเ่ท่ากับ $b
<> $a <> $b ผลท่ีได้เป็นจรงิ(TRUE) ถ้า $a ไมเ่ท่ากับ $b
!== $a !== $b
ผลท่ีได้เป็นจรงิ(TRUE) ถ้า $a มค่ีาต้องไม่เหมอืนและไมเ่ท่ากัน $b
< $a < $b ผลท่ีได้เป็นจรงิ(TRUE) ถ้า $a น้อยกวา่ $b
> $a > $b ผลท่ีได้เป็นจรงิ(TRUE) ถ้า $a มากกวา่ $b
<= $a <= $b
ผลท่ีได้เป็นจรงิ(TRUE) ถ้า $a น้อยกวา่หรอืเท่ากับ $b
>= $a >= $b
ผลท่ีได้เป็นจรงิ(TRUE) ถ้า $a มากกวา่หรอืเท่ากับ $b
ตัวอยา่งการใช้ Comparison Operators ในการเปรยีบเทียบค่า 2 ค่า
<html> <head><title>Comparison Operators </title>head> <body><?php<?php$a = 1; $b = 2; if($a == $b) { echo "TRUE"; echo "<br>"; }else{ echo "FALSE";echo "<br>"; } if($a === $b) { echo "TRUE"; echo "<br>"; }else{ echo "FALSE"; echo "<br>"; } if($a !== $b) { echo "TRUE"; echo "<br>"; }else{ echo "FALSE"; echo "<br>"; } if($a<$b) { echo "TRUE"; echo "<br>"; }else{ echo "FALSE"; echo "<br>"; } if($a>$b) { echo "TRUE"; echo "<br>"; }else{ echo "FALSE"; echo "<br>"; }?><body></html>
4. Incrementing และ Decrementing Operators หรอื ตัวดำาเนินการเพิม่และลด ม ี4 รูปแบบซึ่งแต่ละแบบได้ผลลัพธท่ี์ต่างกัน
Incrementing Operator
ตัวอยา่ง
ผลลัพธ์
++ ++$a
เพิม่ค่าของ $a แล้วค่อยคืนค่า $a
$a++
คืนค่า $a ก่อนแล้วค่อยเพิม่ค่า $a
Incrementing Operator
ตัวอยา่ง
ผลลัพธ์
----$a ลดค่าของ $a แล้ว
ค่อยคืนค่า $a
$a-- คืนค่า $a ก่อนแล้วค่อยลดค่า $a
ตัวอยา่งการใช้ Incrementing และ Decrementing Operators ในการเพิม่และลดค่า
<html> <head><title>Incrementing Decrementing </title>head> <body><?php$a = 1;echo $a++; echo $a; echo ++$a; echo $b = --$a; echo $c = $a--; ?> <body></html>
เพิม่ค่า$a อีก 1
เพิม่ค่าอีก 1 ให้
$b = 2, $a= $c=2,
5. Logical Operators หรอื ตัวดำาเนินการทางตรรกะ
Operator
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์
and$a and $b
TRUE ถ้า $a และ $b มเีท่ากับ TRUE
or $a or $b TRUE ถ้า $a หรอื $b มค่ีาเท่ากับ TRUE
xor$a xor $b
TRUE ถ้า $a หรอื $b มค่ีาเท่ากับ TRUE แต่ถ้าเป็น TRUE ทัง้คู่ค่าจะได้ FALSE
! ! $a TRUE ถ้า $a มค่ีาไมเ่ท่ากับ TRUE
&&$a && $b
TRUE ถ้า $a และ $b มเีท่ากับ TRUE
|| $a || $b TRUE ถ้า $a หรอื $b มค่ีาเท่ากับ TRUE
ตัวอยา่งการใช้ ตัวดำาเนินการทางตรรกะ
<html> <head><title>Logical Operators </title>head> <body><?php $a = 42;$b = 0; if( $a && $b ){ echo "Both a and b are true<br/>"; }else{echo "Either a or b is false<br/>";} if( $a || $b ){ echo "Either a or b is true<br/>"; }else{echo "Both a and b are false<br/>";} if( $a ){ echo "a is true <br/>"; }else{echo "a is false<br/>";} if( !$a ){ echo "a is true <br/>"; }else{echo "!a is false<br/>";}?><body></html>
6. String Operators หรอื ตัวดำาเนินการกับขอ้ความ คือตัวดำาเนินการสำาหรบัการเชื่อมขอ้ความมอียู ่2 ตัวคือa. .b. .=
ตัวอยา่งการใช้ String Operators ในการเชื่อม ขอ้ความ 2 ขอ้ความเขา้ด้วยกัน
<html> <head><title>String Operators</title>head> <body><?phpecho $a = "Hello ";echo "<br>";echo $b = $a . " World!"; echo "<br>";echo $a = "Hi";echo "<br>";echo $a .= " World!"; ?><body></html>
$b เท่ากับ "Hello World!" เพราะ operator (.) จะทำาการ
$a มคี่าเท่ากับ "Hi World!"เพราะวา่เครื่องหมาย .=
4.3 นิพจน์ (Expressions) นิพจน์ คือ กลุ่มของขอ้มูล ซึ่งประกอบด้วยตัวคงที่ ตัวแปร ซึ่งเชื่อม
กันโดยสญัลักษณ์ทางการคำานวณ หรอืเปรยีบเทียบ สามารถเรยีกกลุ่มของขอ้มูลอันได้แก่ ตัวคงที่ ตัวแปรวา่ Operand (ตัวถกูดำาเนินการ) และเรยีกสญัลักษณ์ทางการคำานวณหรอืการเปรยีบเทียบวา่ Operator (ตัวดำาเนินการ) สามารถแบง่นิพจน์ได้ดังน้ี
1. นิพจน์ทางคณิตศาสตร ์เป็นนิพจน์ที่ประกอบด้วย Operand (ตัวดำาถกูเนินการ) ท่ีเป็นตัวแปร หรอืค่าคงที่ ที่เป็นตัวเลข ซึ่งเชื่อมกันด้วย Operator (ตัวดำาเนินการ) ได้แก่ สญัลักษณ์การคำานวณทางคณิตศาสตร ์บวก,ลบ,คณู,หาร เป็นต้น
2. นิพจน์ทางตรรกศาสตร ์เป็นนิพจน์ที่ประกอบด้วย Operand (ตัวถกูดำาเนินการ) ท่ีเป็นตัวแปร หรอืค่าคงที่ ที่เป็นตัวเลข หรอืนิพจน์ทางคณิตศาตรห์รอืตรรกศาสตร ์ซึ่งเชื่อมกันด้วย Operator (ตัวดำาเนินการ) เชน่ สญัลักษณ์แสดงความสมัพนัธ ์ได้แก่ การเปรยีบเทียบมากกวา่, น้อยกวา่, เท่ากับ เป็นต้น หรอืสญัลักษณ์ทางตรรกศาสตร ์ได้แก่ AND , OR , NOT
ตัวอยา่ง นิพจน์ทางคณิตศาสตร์$a = 10 ; $b=5;$c=$a + $b * 2;$d=$a-$b / 2$e=$a%$b
ตัวดำาเนินการทางตณิตศาสตรไ์ด้แก่+ บวก - ลบ *
ตัวอยา่ง
ตัวอยา่ง นิพจน์ทางตรรกศาสตร์($a < 10) AND ($b=5)($a >=10) OR (!$b=5)($a &&$b< 10) AND (!5)($a || $b) XOR ($b)
